รีวิวสินค้า

DJI Osmo Mobile เป็น gimbal ที่รองรับการใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนตัวแรก ทำให้คนทั่วไปเข้าถึงได้ง่าย ซึ่งเพิ่มประสบการณ์การถ่ายภาพและถ่ายวีดีโอมากขึ้น DJI Osmo Mobile คือ ไม่กันสั่น หรือชื่อทางการคือ Bimbal Stabilizer ที่เอาไว้ใช้กับสมาร์ทโฟน ช่วยให้ถ่ายภาพได้นิ่งมากยิ่งขึ้น จะช่วยให้วีดีโอที่สั่นนั้นเปลี่ยนเป็นนิ่งเหมือนถ่ายรูปจากกล้องโปรเลยทีเดียว แกะกล่อง ภายในกล่องนอกจากจะมีตัว Osmo Mobile แล้วยังมีสายชาร์ทแบตแบบ 3.5 mm. พอร์ต USB-A 3.5 mm. จะอยู่ที่ด้านหลังของด้ามจับ พร้อมสายรัดข้อมือและซองสำหรับใส่ Osmo Mobile   [caption id="attachment_6378" align="aligncenter" width="600"] DJI-Osmo-Mobile[/caption] ที่ด้านหน้าของด้ามจับจะเป็นแผงควบคุม ประกอบด้วยปุ่มคอนโทรลแบบ joystick ทีไว้สำหรับปรับองศาและแพนกล้อง ปุ่มถ่ายวีดีโอและปุ่มถ่ายภาพนิ่ง ด่านหลังเป็นปถ่มควบคุมแบบไกปืน stabilize ตัวกล้องต้อวกดค้างเอาไว้ เวลาถ่ายวีดีโอและภาพนิ่ง หากกด 2 ครั้ง จะเป็นการ calibrate ตัวสมาร์ทโฟนใหเกลับมาในตำแหน่งตั้งตรง และถ้ากด 3 ครั้ง จะเป็นการสลับกล้องหน้าและกล้องหลัง ด้านบนของปุ่มควบคุมจะเป็นพอร์ต 3.5 mm. สำหรับชาร์ทแบตเตอรี่ ด้านซ้ายมือเป็นช่องสำหรับต่อและล็อกอุปกรณ์อื่นๆ เช่นไมโครโฟน   [caption id="attachment_6377" align="aligncenter" width="600"] DJI-Osmo-Mobile[/caption] สำหรับการใส่สมาร์ทโฟนให้เข้าที่ จะใช้ที่หมุนเพื่อขยาย mount ให้พอดีกับขนาดของสมาร์ทโฟน และหมุนปิดเพื่อล็อก ที่ด้ามของแกนนอนจะมีที่หมุนอีกที่ สำหรับปรับบาลานซ์ของสมาร์ทโฟน ฟีเจอร์ต่างๆ และการใช้งาน DJI Osmo Mobile สามารเชื่อมต่อกับแอพ DJI Go ได้ผ่าน Bluetooth 4.0 LE และการใช้งานถ่ายวีดีโอและภาพนิ่งสามารถทำได้ด้วยผ่านแอพ DJI Go ได้ทั้งหมด แล้วความละเอียดและคุณภาพของวีดีโอและภาพนิ่ง จะขึ้นอยู่กับฮาร์ดแวร์ของสมาร์ทของเราเป็นตัวหลัก   [caption id="attachment_6380" align="aligncenter" width="558"] DJI-Osmo-Mobile[/caption] DJI Osmo Mobile มีแกนกันสั่น 3 แกน เพียงแค่กดปุ่ม trigger ที่ด้านหลังค้างเอาไว้จะทำให้ช่วยซับแรงและลดการสั่นเวลาใช้งานไปได้ค่อนข้างมาก ที่สำคัฐคือถ้าต้องการถ่ายภาพในที่ๆ มีแสงน้อย Osmo Mobile ช่วยให้เราถ่ายภาพได้คมชัด โดยไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้อง ในขณะที่แอพ DJI Go สามารถปรับรูรับแสงและความเร็วชัตเตอร์ได้ด้วย   [caption id="attachment_6401" align="aligncenter" width="640"] DJI-Osmo-Mobile[/caption] ฟีเจอร์ที่เด่นๆ ของ DJI-Osmo-Mobile คือ Active Track ที่ทำให้สมาร์ทโฟนตรวจจับใบหน้าและติดตามการเคลื่อนไหวต่างๆ ได้อัตโนมัติ ช่วยให้การถ่ายวีดีโอทำได้ด้วยตัวคนเดียว นอกจากนี้การถ่ายวีดีโอที่มาพร้อมกับแอพ DJI Go ยังมี Timelapse และ Motion Timelapse ไปพร้อมๆ กับการแพนกล้อง การถ่ายภาพนิ่งมีฟีเจอร์พาโนรามาโดยจะแพนกล้องอัตโนมัติ ช่วยให้ได้ภาพที่สมบูรณ์มากกว่าการถือสมาร์ทโฟนถ่ายด้วยตัวเอง   [caption id="attachment_6376" align="aligncenter" width="600"] DJI-Osmo-Mobile[/caption] แอพ DJI Go ยังรองรับการ Live สดผ่าน Youtube ได้ผ่านตัวแอพโดยตรง

DJI Mavic Drone มีขนาดค่อนข้างเล็กมาก ลบภาพของ Phantom 4 ที่ต้องใช้กรเป๋าเป้มาสะพายแบกไปไหนมาไหนได้เลย DJI Mavic Drone ตัวนี้ถือว่าตอบโจทย์นักเดินทางท่องเที่ยวมาก คือมันสะดวกในการพกพา มันมีขนาดเล็กมากและพกพาง่าย ตัวโดรนสามารถพับและถือมือเดียวได้ น้ำหนักประมาณ 700 กรัม รีโมทมีการออกแบบให้พับและเสียบมือถือเข้าไปเพื่อใช้เป็นจอดูภาพได้ เล็กจนไม่น่าเชื่อว่ามันคือรีโมทที่ทีระยะทำการสูงสุดถึง 5 กิโลเมตร   [caption id="attachment_6339" align="aligncenter" width="640"] DJI-Mavic-Drone[/caption] เนื่องด้วย DJI-Mavic-Drone มีขนาดเล็ก เวลาพกเข้าไปในสถานที่ต่างๆ ก็ง่ายไม่สะดุดตา เนื่องจากเดี๋ยวนี้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจะโดนเทรนมาว่ากระเป๋าเป้กระดองใหญ่ๆ ที่ทีคำว่า DJI มันคือโดรน ถ้าเห็นต้องรายงานหัวหน้าหน่อย   [caption id="attachment_6354" align="aligncenter" width="600"] DJI-Mavic-Drone[/caption] แม้ว่าจะโยนขึ้นฟ้าแล้วกางบินเองเหมือนในเกมส์ไม่ได้ แต่ DJI-Mavic-Drone ตัวนี้ก็ทำได้ดีมาก ใช้เวลาแค่ประมาณครึ่งนาทีในการ Take Off [caption id="attachment_6340" align="aligncenter" width="640"] DJI-Mavic-Drone[/caption] มาพูดถึงอีกเนื่องที่น่าสนใจสุดๆ คือ มันบินง่ายมาก เรียกได้ว่าเป็นการบินระบบ Sensors ต่างๆ ของ DJI-Mavic-Drone ทำมาได้ดีมาก และใช้งานได้จริง เราไม่จำเป็นต้องฝึกบิรมาก่อนก็สามารถใช้บินได้เลยง่ายๆ   [caption id="attachment_6350" align="aligncenter" width="600"] DJI-Mavic-Drone[/caption] 1. ระบบ TakeOff กับ Landing ง่ายและปลอดภัยมากๆ เราสามารถกดปุ่มเดียวเพื่อทำการ Takeoff ได้เลย โดยที่เครื่องจะดีดตัวขึ้นมาลองนิ่งๆ เหนือพื้นประมาณ 120 เซนติเมตร และมีระบบ Precision Landing มาช่วยในการลงจอด ยังไงก็ไม่เกิดกรณีบังคับกระแทกพื้นแน่นอนไม่ว่าเราจะลดระดับลงเร็วขนาดไหน เมื่อ Ultrasonic Sensor จับได้ว่่าใกล้ถึงพื้นแล้ว ตัวเครื่องจะเข้าสู่โหมด Landing Sequent และลงจอดเอง 2. ความนิ่ง นิ่งมากๆ เมื่อ Take Off แล้วปล่อยมือจากรีโมทเดินไปได้เลย ความนิ่งและความเสถียรของมันนี่เองทำให้มือใหม่ก็สามารถจับแล้วบินได้เลยทันที 3. ระบบเซนเซอร์และความปลอดภัยต่างๆ ตัวเครื่องจะมี Ultrasonic และ Optical Sensors รอบตัว เพื่อนช่วยในการหลักเลี่ยงสิ่งกีดขวางต่างๆ ใช้งานได้จริงในโหมดต่างๆ หรือแม้กระทั้งการลาดเอียงของพื้นเวลาเราเดินขึ้นเขาหรือลงเขา   [caption id="attachment_6352" align="aligncenter" width="600"] DJI-Mavic-Drone[/caption] เรื่องสุดยอดอีกอย่างของ DJI-Mavic-Drone คือระบบ Positioning ของตัวเครื่อง มันทำได้ละเอียดและเนียนกริ๊บมากๆ   [caption id="attachment_6351" align="aligncenter" width="600"] DJI-Mavic-Drone[/caption] ข้อดีของ มีขนาดเล็กพกพาง่าย ติดตัวไปได้ทุกที่ ตั้งค่าก่อนบินได้เร็วมาก บิ่งได้บิ่งและเสถียรมากๆ มือใหม่สามารถใช้ได้สบายๆ ไม่ต้องกลัวว่าจะทำตก ถ่ายวีดีโอ 4K ได้ ถ่ายไฟล์ RAW ได้ ระยะใช้งานไกลขึ้นมาก แบตใช้ได้นานกว่า Phantom 4 ข้อเสียของ ราคาค่อนข้างแพง รอคิวรับของนานเพราะสินค้าขาดตลาด Optical sensors ใช้งานตอนกลางคืนไม่ได้ App ของโดรนกินแบบของโทรศัพท์มือถือมาก เพราะ save cache ลงมือถือให้ด้วยตลอด [caption id="attachment_6343" align="aligncenter" width="1000"] DJI-Mavic-Drone[/caption] ข้อมูลเพิ่มเติมของ

Fujifilm X100F กล้อง Compact ระดับพรีเมี่ยม ซึ่งต่อยอดมาจาก Fujifilm-X100T ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560 พร้อมกับกล้อง Fujifilm X-T20 มี 2 สี นั้นก็คือ สีดำและสีเงิน สเปคโดนรวมของ Fujifilm X100F เซนเซอร์ X-Trans CMOS III ความละเอียด 24 ล้านพิกเซล เลนส์ 23mm f/2 (เทียบเท่าเลนส์ 35 mm ในกล้อง Full frame) จุดโฟกัส 325 จุด เป็นจุดโฟกัสแบบ Phase Detection Auto Focus (PDAF) 169 จุด มี Wifi ในตัว ทำให้ส่งภาพได้ง่ายๆ Viewfinder สามารถเลือกให้เป็นได้ทั้ง OVF (ภาพจริงผ่านช่องมองภาพ) และ EVF (ภาพจากจอในช่องมองภาพ) โดย EVF มีความละเอียด 2.36 ล้านพิกเซล หน้าจอหลังขนาด 3 นิ้ว ความละเอียด 1.04 ล้านพิกเซล ISO สูงสุด 51,200 ความเร็วซัตเตอร์สูงสุด 1/32,000 ในโหมดซัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ ถ่ายภาพต่อเนื่อง 8 ภาพต่อวินาที ถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุด 1080p 60 fps เสียบไมค์แบบ 2.5 mm ได้ [caption id="attachment_6300" align="aligncenter" width="596"] Fujifilm-X100F[/caption] การควบคุม Fujifilm X100F เป็นกล้องตัวที่ 4 ในตระกูล Fuji X (F คือ Fourth หรือสี่) แม้ว่าหน้าตากล้งจะเป็นสไตล์เรทโทร คล้ายรุ่นก่อนๆ แต่รูปแบบการใช้งานหลายๆ อย่างก็พัฒนาให้เหมาะสมกับยุคสมัยที่พัฒนาขึ้น จุดที่แตกต่างหลักๆ ใน Fujifilm-X100F คือ Joystick ที่เพิ่มเข้ามา ใช้สำหรับเลื่อนจุดโฟกัส แม้กล้องจะไม่มีระบบหน้าจอสัมผัส แต่ก็สามารถใช้จอยเลื่อนตำแหน่งโฟกัสได้อย่างรวดเร็ว ปุ่มควบคุมที่อยู่ด้านซ้ายของจอคือ View Mode, ลบรูป, ดูรูปและปุ่มเปิด WI-Fi ที่มีเหมือนกับ X100 รุ่นแรกๆ ทำให้สามารถควบคุมได้ด้วยมือเดียว ปุ่ม Drive ที่กดกันบ่อยๆ ก็มาอยู่รวมกันเป็นหนึงในปุ้ม 4 ทิศทาง   [caption id="attachment_6302" align="aligncenter" width="432"] Fujifilm-X100F[/caption] ใน Fujifilm-X100F ปุ่มวงแหวนด้สนหน้าเลนส์สามารถทำได้หลายอย่าง เช่น เปลี่ยนสีขอภาพ หรือปรับการซูมดิจิทัล (Digital Teleconverter) ทำให้กล้องเลนส์ฟิกที่ซูมไม่ได้ตัวนี้ สามารถซูมได้สะดวกยิ่งขึ้น และที่ด้านบนยังมีวงแหวะปรับ ISO

Fujifilm X-T20 รุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อกับเซ็นเซอร์ APS-C X-TRAN COMS III ความละเอียดสูงถึง 24.3 ล้านพิกเซล ระบบประมวลผล X-Porcessor Pro ที่ให้ภาพคุณภาพสูง พร้อมโหมดจำลงสีฟิล์ม ที่สามารถเลือกใช้งานได้ทั้งในภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว ระบบออโต่โฟกัสรูปแบบใหม่ที่มีจุดโฟกัสมากถึง 325 จุด พร้อมระบบถ่ายภาพต่อเนื่อง AF-C Custom Setting ถ่ายภาพเคลื่อนไหวได้ถึง 5 แบบ ถ่ายภาพต่อเนื่อง 8 FPS และสูงสุดถึง 14 FPS บันทึกภาพวีดีโอระดับ 4K ที่ 29.97 FPS ได้นานถึง 10 นาที [caption id="attachment_6284" align="aligncenter" width="596"] Fujifilm-X-T20[/caption] สเปคโดยรวของ Fujifilm X-T20 เซ็นเซอร์ X-Trans CMOS III ความละเอียด 24.3 MP ไม่มี Low Pass Filter ระบบประมวลผล X-Processor Pro โฟกัส 325 จุด พร้อม Custom Sitting บันทึกวิดีโอ 4K ที่ 30 fps หน้าจอสัมผัสขนาด 3 นิ้ว EVF ความละเอียด 2.36 ล้านจุด 54 fps ถ่ายต่อเนื่อง 8 ภาพต่อวินาที (และ 14 ภาพต่อวินาที สำหรับ Electronic Shutter) เพิ่ม Film Simulation ACROSS Speed Shutter 1/32000 วินาที แบตเตอรี่รุ่น NP-W126S สามารถถ่ายได้ 350 ภาพ [caption id="attachment_6281" align="aligncenter" width="600"] Fujifilm-X-T20[/caption] Fujifilm X-T20 มีขนาดเล็กกะทัดรัด แต่แข็งแรงและมีน้ำหนักเบาเพียง 383 กรัม มาพร้อมกับจอ LCD ขนาด 3 นิ้ว ความละเอียด 1.04 ล้านจุดสี มีระบบสัมผัสเพื่อควบคุมจุดโฟกัสในการถ่ายภาพ และเลื่อนดูภาพได้ นอกจากนี้ยังวามารถชาร์ทแบตด้วย PowerBank ผ่านพอร์ท USB ในตัวกล้องได้ Fujifilm X-T20 มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีดำกับสีเงิน ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 33,990 บาท (เฉพาะบอดี้อย่างเดียว) ข้อเสียคือไม่สามารถกันฝุ่นและละอองน้ำได้   [caption id="attachment_6287" align="aligncenter" width="600"]

Fujifilm X-T2 ใช้เซนเซอร์ 24.3 ล้านพิกเซล X-Trans CMOS III APS-C ซึ่งเป็นตัวเดียวกับ X-Pro2 มีความเร็วชัตเตอร์สูงสุดในทางกลไกที่ 1/8000 และในทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ 1/32000 และปรับปรุงอัลกอริทึมของ AF-C ซึ่งจะช่วยให้การตอบสนองของตัวกล้องเร็วขึ้น สเปคโดยรวมของ Fujifilm X-T2 X-Trans CMOS III ความละเอียด 24.3 MP โฟกัส 325 จุด ISO 200-12,800 (ขยายได้ 100-51,200) Dual SD Card (UHS-II) ถ่ายได้ต่อเนื่อง 8 ภาพต่อวิ (14 ภาพเมื่อใส่กริป ES 11 ภาพ เมื่อใส่กริป MS) วิดิโอความละเอียดสูงสุด 4K ที่ 30 FPS (100 Mbps) ถ่ายได้ต่อเนื่อง 10 นาที (30 นาที เมื่อใส่กริป) วิดิโอ Full HD ที่สูงสุด 60 FPS Speed Shutter สูงสุด 1/32000 สำหรับ Electronic Shutter และ 1/8000 สำหรับ แบบทั่วไป EVF ความละเอียด 2.36 ล้านจุด ที่เฟรมเรต 60 FPS ขนาด 0.5 นิ้ว (100 FPS เมื่อใส่กริป) หน้าจอ 3 นิ้ว หมุนได้ 3 ทิศทาง ความละเอียด 1.62 ล้านจุด แบตรุ่นใหม่ Fujifilm NP-W126s (ใช้ NP-W126 ได้) PROVIA/Standard, Velvia/Vivid, ASTIA/Soft, CLASSIC CHROME, PRO Neg.Hi, PRO Neg.Std, Black & White, Black & White+Ye Filter, Black & White+R Filter, Black & White+G Filter, Sepia, ACROS,ACROS+Ye Filter, ACROS+R Filter, ACROS+G Filter Wi-Fi ช่องเสียบ 3.5 mm microphone,

Nikon Coolpix P900 Nikon Coolpix P900 กล้องที่จะช่วยให้คุณ่ายภาพระยะไกล ให้สามารถใกล้มากขึ้น ด้วยความสามารถในการซูมภาพได้ สูงด้วย P900 16.1 เมกะพิกเซลใหม่ และเข้าใกล้ตัวแบบของคุณมากขึ้นด้วยระบบซูมแบบออพติคอล 83x (เทียบเท่า 24 มม. -2000 มม. ในฟอร์แมต 35 มม.) และ Dynamic Fine Zoom 166x*1 (เทียบเท่าประมาณ 4000 มม. ในฟอร์แมต 35 มม.) กล้องตัวนี้เหมาะสำหรัยมือใหม่หัดถ่ายภาพ ด้วยการป้องการการสั่น ภาพที่ถ่ายออกมาจึงไม่มัว หรือ มีความเบลอ ด้วยความไวซัตเตอร์ 5.0 สต๊อปค่ะ   Body Nikon Coolpix P900 ลักษณะของตัวกล้อง จะเห็นได้ว่ามีความเล็กกระทัดรัด นำมาถ่ายภาพได้อย่างกระชับมือ สามารถถ่ายภาพด้วยมือข้างเดียวได้ ปุ่มควบคุมการทำงานของกล้องจะอยู่ที่ฝั่งขวามือ พร้อมมีแฟลซในตัว การมองทำสามารถทำได้ 2 ทางด้วยกัน คือการมองภาพผ่านช่องมองภาพ และมองภาพผ่านหน้าจอ LCD ที่สามารถปรับ บิด และพับได้ ทำให้มุมมองการถ่ายภาพของคุณแตกต่างกว่าคนอื่นอย่างสิ้นเชิง พร้อมจะนำมาถ่ายเซลฟี่ก็ยังได้ค่ะ ยังสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนของคุณได้ง่ายๆ โดยใช้ Wi-Fi ในตัว หรือ NFC ไม่มีสีให้เลือก ผลิตออกมาแค่สีดำสีเดียว ค่ะ จุดเด่นที่ใคร ๆ ก็หลงรัก เลนส์ซูมพิเศษ 2000 มม. ในขนาดอันกระทัดรัด เลนส์ยังสามารถให้ระยะชัดลึกที่ตื้น ซึ่งจะช่วยขับเน้นวัตถุที่คุณต้องการให้โดดเด่นและลดทอนโฟกัสของฉากหลัง COOLPIX P900 ครอบคลุมระยะที่กว้างขวางตั้งแต่มุมกว้างไปจนถึงเทเลโฟโต้ พร้อมช่วงการโฟกัสเทียบเท่ากับ 24-2000 มม.ในตัวกล้องดีไซน์กะทัดรัดซึ่งยังมีประสิทธิภาพระดับสูงในการลดความสั่นไหวอีกด้วย และด้วย Dynamic Fine Zoom จึงสามารถขยายได้ถึง 4000 มม.โดยไม่สูญเสียความละเอียดของภาพ ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีการซูมแบบดิจิตอลที่ให้คุณได้สูงถึง 8000 มม. เพื่อกำลังขยายที่เพิ่มขึ้น ข้อมูลเฉพาะ 1.เป็นกล้องดิจิตอลคอมแพค 2.พิกเซลใช้งานจริง 16.0 ล้านพิกเซล (การประมวลผลภาพอาจลดจำนวนพิกเซลใช้งานจริงลง) 3.เซ็นเซอร์ภาพชนิด CMOS 1/2.3 นิ้ว พิกเซลทั้งหมด: ประมาณ 16.76 ล้านพิกเซล 4.เลนส์ NIKKOR ซูมแบบออพติคอล 83x 5.ทางยาวโฟกัส 4.3 ถึง 357 มม. (มุมมองภาพเทียบเท่าเลนส์ 24-2000 มม. ในฟอร์แมต 35 มม. [135]) 6.ค่ารูรับแสงสูงสุด f/2.8 ถึง 6.5 7.กำลังขยายสำหรับการซูมแบบดิจิตอลสูงสุด 4x (มุมมองภาพเทียบเท่าเลนส์ประมาณ 8000 มม. ในฟอร์แมต 35 มม. [135]) 8.ระบบลดภาพสั่นไหวด้วยการปรับเลนส์ (ภาพนิ่ง), การปรับเลนส์และระบบลดภาพสั่นไหวแบบอิเล็กทรอนิกส์ (ภาพยนตร์) 9.ระบบโฟกัสอัตโนมัติ AF แบบตรวจจับคอนทราสต์ ช่วงการโฟกัส[W]: ประมาณ 50 ซม. (1 ฟุต 8 นิ้ว)